ลูกอม เยลลี่ ที่ผสมวิตามินและเกลือแร่

ลูกอม เยลลี่ ที่ผสมวิตามินและเกลือแร่
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบ กัมมี่ เป็นรูปแบบใหม่ของวงการอาหารเสริม มีลักษณะเป็นเยลลี่ ยืดหยุ่น เคี้ยวได้ เป็นการพลิกรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ทานง่ายขึ้น อร่อย รสชาติหวาน มีหลากหลายรสชาติ หลากหลายสี และรูปทรง ทำให้เหมาะสำหรับเด็กๆและคนรุ่นใหม่ ที่เปลี่ยนมุมมองการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากที่ต้องกลืนในรูปแบบเม็ด ก็สามารถเคี้ยวหนึบเหมือนขนมได้เลย และยังได้รับสารอาหารและวิตามินครบถ้วน
เหมาะกับใคร
กัมมี่มีจุดเด่นที่เนื้อสัมผัสมีความนุ่มหนึบ เคี้ยวได้ มีรสชาติหวานอร่อย จึงแน่นอนว่าเหมาะสำหรับเด็ก แต่ก็รวมไปถึงผู้ใหญ่ซึ่งสามารถทานได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังด้านปริมาณน้ำตาลในส่วนผสม ที่อาจสูง ซึ่งไม่ดีตรงสุขภาพ เพราะแต่ละชิ้นอาจประกอบด้วยน้ำตาลสูงถึง 2-8 กรัม
ด้วยรสชาติหวานอร่อย ถูกใจผู้บริโภค โดยเฉพาะเด็กๆ อาจทำให้เกิดปัญหาได้รับปริมาณวิตามินมากเกินไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรูปแบบ Gummyจะแนะนำให้ทานเพียง 2 ชิ้นต่อวัน
- ปรับปรุงสุขภาพของกระดูก เนื่องจากเจลาตินที่ใช้ทำเจลลี่มีกรดไลซีน (lysine) ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมจากอาหารที่เรารับประทานในชีวิตประจำวันได้ดี บางกรณีผู้คนรับประทานเจลาตินเพื่อลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน และปกป้องไม่ให้กระดูกเสื่อมสภาพอีกด้วย
- ดูแลผิวพรรณ ในส่วนประกอบของเจลาตินนี้ ถูกสร้างมาจากคอลลาเจนเสียส่วนใหญ่ จึงช่วยให้ผิวพรรณแลดูอ่อนเยาว์ เพราะร่างกายของเราที่เติบโตขึ้น ทำให้เกิดริ้วรอยตามวัย เช่น รอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก จากการศึกษาของทีมวิจัยปี 2016 พบว่า การบริโภคคอลลาเจน สามารถปรับปรุงร่องรอยอันไม่พึงประสงค์บนใบหน้า และยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวพรรณดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
- การย่อยอาหาร นอกเหนือจากกรดไซลีน (lysine) ที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีกรดกลูตามิก (glutamic acid) ในเจลาติน ที่เป็นสารอย่างหนึ่งอาจช่วยให้เยื่อบุในกระเพาะอาหารแข็งแรงขึ้น ทำให้ย่อยอาหารได้โดยง่าย และกระตุ้นกระบวนการผลิตน้ำย่อย ทำให้อาหารที่ลงผ่านลำคอไปยังกระเพาะนั้นลื่นขึ้น ไม่ติดขัดในท่อลำเลียง
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด งานวิจัยชิ้นหนึ่งถูกระบุไว้ว่ากรดอะมิโนในเจลาติน ช่วยให้ผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานในประเภทที่ 2 ที่ช่วยปรับปรุงสภาพภายในบรรเทาอาการอักเสบลง และลดอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
- ปรับปรุงปัญหาด้านการนอนหลับ จากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ปี 2006 เมื่อรับประทานเจลาตินในปริมาณ 3 กรัม ก่อนนอน ชี้ให้เห็นว่าเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าทำให้รู้สึกถึงความตื่นตัว มีชีวิตชีวา สดชื่นมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมิได้แนะนำว่าควรบริโภคตลอดเวลา หรือต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน หากคุณมีปัญหาด้านการนอนหลับจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมถึงวิธีการแก้ไขในเบื้องต้น
- บำรุงผม และเล็บ บางคนอาจใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เช่น แคปซูลที่มีส่วนผสมของผงเจลาติน ซึ่งช่วยให้เพิ่มความหนา ความแข็งแรง ลดอาการเส้นผมหลุด ทั้งนี้ยังป้องกันไม่ให้เล็บเปราะบาง จนเกิดการฉีกขาดง่าย
- ภาวะฟันผุ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่กว่า 70 % เป็นสาเหตุสำคัญให้สูญเสียฟันมากที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะพฤติกรรมการกิน โดยเฉพาะการอมลูกกวาด เนื่องจากลูกกวาดมีปริมาณน้ำตาลมาก ซึ่งเป็นอาหารสำคัญในการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ หลังจากจุลินทรีย์ใช้น้ำตาลไปแล้วจะมีเปลี่ยนแปลงทางเคมี เกิดเป็นสารทำลายฟันนั่นเอง
- โรคอ้วน การกินน้ำตาลบ่อยๆ นอกจากจะทำให้ฟันผุแล้ว การบริโภคน้ำตาลปริมาณมากยังส่งผลให้เป็นเด็กอ้วนรวมถึงโรคอ้วนได้อีกด้วย โดยเฉพาะในเด็กที่ไม่ค่อยได้ขยับตัวออกกำลังกาย
- ขาดสารอาหาร ทางการแพทย์พบว่าหากร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไป โดยเฉพาะก่อนอาหารจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นชั่วคราว ส่งผลให้ไม่หิว เด็กๆ จึงรับประทานอาหารได้น้อยลง รวมถึงปัญหาฟันผุทำให้เคี้ยวอาหารยากขึ้น จึงทำให้ขาดสารอาหาร
กินได้แต่ต้องเลือก
อ่านฉลาก ดูส่วนผสมของกัมมี่ และลูกอมทุกครั้งก่อนซื้อ เปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลจำนวนไม่ควรเกิน 12 กรัม รวมถึงเลือกที่มีส่วนผสมของธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น เป็นสีปรุงอาหารที่รับประทานได้ หรือใช้สมุนไพรเพิ่มความหวาน
กัมมี่ และลูกอมธรรมชาติ เลือกกัมมี่ และลูกอมที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น น้ำตาลมะพร้าว นม กล้วย หรือผลไม้ชนิดต่างๆ
เลี่ยงลูกอมแบบที่อมนาน ปัจจุบันมีการผลิตลูกอมชนิดที่ใช้อมระหว่างมื้ออาหาร และอมวันละหลายๆ ครั้ง ซึ่งส่งผลเสียอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเพิ่มเวลาและปริมาณน้ำตาลให้เชื้อจุลินทรีย์ใช้สร้างกรดซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุมากขึ้น
เลี่ยงลูกอมเคี้ยวหนึบ เนื่องจากลูกอมมีลักษณะเหนียวหนับ เมื่อเคี้ยวจะยิ่งติดฟันมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณซอกฟัน ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ทั่วถึงอาจส่งผลเสียกับฟันมากขึ้น
จำกัดจำนวน แม้จะเลือกกัมมี่ และลูกอมที่หวานน้อย หรือทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ แต่ขึ้นชื่อว่ากัมมี่ และลูกอมแล้วก็ย่อมมีความหวาน ดังนั้นควรมีการจำกัดการรับประทาน เช่น กินได้ครั้งละ 1-2 เม็ด
แปรงฟัน ควรฝึกให้เด็กแปรงฟันทุกครั้งหลังกินกัมมี่ และลูกอม หรืออาหารหวานอื่นๆ เพื่อลดการสะสมของน้ำตาลในบริเวณซอกฟัน ซึ่งอาจส่งผลให้ฟันผุ
ลูกอมและเยลลี่
บทสรุป
ผลิตภัณฑ์ลูกอม และกัมมี่ เป็นผลิตภัณฑ์ขนมหวานประเภทลูกกวาด มีเนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม เหนียว และมีความยืดหยุ่น มีส่วนประกอบหลักได้แก่ น้ำ น้ำตาล กรด และสารก่อเจล เจลาติน ดังนั้น จึงควรเลือกบริโภคให้เหมาะสม หรือบริโภคตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์

2023-06-07 16:11:34