โกจิเบอรี่สกัด (Gojiberry Extract) | 365wecare
365wecare
เข้าสู่ระบบ    | ยังไม่มีสินค้า  
หน้าแรก  รีวิวสินค้า  ปัญหาสุขภาพ  วิธีสั่งซื้อ  ข่าวสาร  แนะนำสินค้า  สาระน่ารู้  ติดต่อเรา 
โกจิเบอรี่สกัด (Gojiberry Extract)

โกจิเบอรี่สกัด (Gojiberry Extract)

 

     โกจิเบอร์รี่สกัด หรือ Wolfberry มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lycium barbarum วงศ์ Solanaceae และรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่าเก๋ากี้ เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งในตระกูลเบอร์รี มีถิ่นกำเนิดแถบทวีปเอเชีย ลักษณะเป็นไม้พุ่มผลัดใบ ผลมีสีแดงสด อุดมไปด้วยวิตามิน ซี ไฟเบอร์ ธาตุเหล็ก วิตามิน เอ ซิงค์ สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ และกรดอะมิโนจำเป็น 8 ชนิดที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้มี สรรพคุณหลากหลาย ได้รับขนานนามว่าเป็น ซุปเปอร์ฟรุต (super fruit) ผลของโกจิเบอร์รี่มีสีแดงอมส้ม ขนาดเล็ก รสชาติเปรี้ยวอมหวาน

 

     ผู้คนนิยมรับประทานโกจิเบอร์รี่เป็น ยาอายุวัฒนะ เพราะเชื่อกันว่าช่วยให้อายุยืนยาว รับประทานผลสดได้ ใช้ประกอบอาหาร แปรรูปเป็นชาสมุนไพร น้ำผลไม้ ไวน์ รวมถึงใช้ทำเป็นยา โดยมักใช้ส่วนของผลที่อบแห้งและเปลือกของราก ซึ่งเชื่อว่ามีฤทธิ์เป็นยารักษาหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง เป็นต้น และช่วยบำรุงสายตา ผ่อนคลายอารมณ์ และช่วยแก้ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

โกจิเบอรี่สกัด (Gojiberry Extract) ที่เราแนะนำ

สรรพคุณของโกจิเบอรี่สกัด (Goji Berry)


 

  •         โกจิเบอร์รี่สกัด หรือคนไทยส่วนมากแต่เดิมจะรู้จักกันในชื่อของ เก๋ากี้ นับว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการบรรเทารักษา และสารอาหารที่ให้คุณประโยชน์มากชนิดหนึ่ง ซึ่งจะกล่าวถึงตัวอย่างสรรพคุณและประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ ดังนี้

 
yes  การประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีสารโพลี่แซคคาไรด์อีกกว่า 4 ชนิด ได้แก่ LBP-1 LBP-2 LBP-3 LBP-4
 
yes  ประกอบไปด้วยแร่ธาตุตามตารางที่ร่างกายต้องการได้รับในแต่วัน 21 ชนิด แร่ธาตุส่วนที่สำคัญดังกล่าว ตัวอย่างเช่น แคลเซียม สังกะสี เหล็ก ฟอสฟอรัส ทองแดง เจอร์มาเนียม และ ซิลีเนียม
 
yes  ประกอบด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ วิตามินซี ในโกจิเบอร์รี่นั้นมีวิตาในซีสูงกว่าส้มถึง 500 เท่า นับเป็นพืชผลไม้ที่มีวิตามินิซีสูงเป็นอันดับสองรองจาก คามู คามูเบอร์รี่ วิตามินตระกูลบี เช่น วิตามิน บี1 วิตามินบี2 วิตามินบี6 วิตามินอี ช่วยบำรุงผิวให้สวย
 
yes  ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุล ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงของโรคหวัด ด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมากในโกจิเบอร์รี่ ทำให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น และยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรงลดความเสี่ยงของการเป็นหวัดได้ ซึ่งจากการทดลองในห้องแลปพบว่า โกจิเบอร์รี่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันหวัดในหนูทดลองที่มีอายุมาก 
 
yes  ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ และช่วยให้น้ำตาลในเลือดมีความสมดุลการรับประทานโกจิเบอร์รี่นั้นมีมีส่วนช่วยในการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความทนทานต่อน้ำตาล ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน บำรุง และเสริมสร้างเซลล์ที่ช่วยในการสร้างอินซูลินช่วยให้อินซูลินอยู่ในสภาวะสมดุล
 
yes  ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมันโกจิเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายแม้จะรับประทานเพียงแต่น้อยก็ตาม อีกทั้งยังมีรสชาติดี และมีไฟเบอร์สูง ทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้ยาวนาน และยังเป็นอาหารควบคุมน้ำหนักรสชาติอร่อย สามารถทานเป็นขนมกินเล่น หรือโรยหน้าโยเกิร์ต หรือบนสลัด ได้เช่นกัน เพราะเป็นพืชผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำ ระดับน้ำตาลน้อย โดยโกจิเบอร์รี่ปริมาณ 28 กรัม ให้พลังงานเพียง 23 แคลอรี่
 
yes  การเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนโกจิเบอร์รี่ถูกใช้เป็นเพื่อเป็นยาในการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศมาอย่างยาวนานตามแพทย์แผนจีน โดยจากการทดลองกับตัวอย่างหนูในห้องแลป พบว่าโกจิเบอร์รี่สามารถส่งผลดังนี้ เพิ่มปริมาณอสุจิ และทำให้อสุจิเคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ่น  เพิ่มระดับเทสโทสเตอโรน เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ลดระยะเวลาการหลั่ง
 
        ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือสรรพคุณอันมากมายของโกจิเบอร์รี่ที่จะช่วยให้ผู้ที่รักสุขภาพ ได้มีทางเลือกอีกทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพให้ดีได้รอบด้านด้วยการรับระทานสมุนไพรจากธรรมชาติแท้ ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายจาก โกจิเบอร์รี่ สมุนไพรมากประโยชน์จากธรรมชาติ ซึ่งไม่ว่าจะเลือกทานในรูปแบบของผลโกจิเบอร์รี่สด ๆ หรือในรูปแบบของ สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ ก็ล้วนแต่ได้รับคุณค่า และประโยชน์ไม่แพ้กัน

 

การรับประทานโกจิเบอรี่สกัดอย่างปลอดภัย

 

     ความเชื่อและการใช้สมุนไพรนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ บางส่วนยังคงต้องมีการศึกษาในระยะยาว เพื่อดูประสิทธิภาพและความปลอดภัย โดยทั่วไปการรับประทานโกจิเบอร์รี่ในชีวิตประจำวันมักไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่มีข้อระมัดระวังในการรับประทานบางประการ ดังนี้

 

 การรับประทานโกจิเบอร์รี่ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ค่อนข้างปลอดภัย แต่ในบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน


 สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานโกจิเบอร์รี่ เนื่องจากมีสารบีเทนหรือเบทาอีน (Betaine) ที่อาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะแท้ง รวมถึงคุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะยังไม่มีข้อมูลยืนยันความปลอดภัย


 ผู้ที่แพ้โปรตีน ผลิตภัณฑ์จากยาสูบ ผลไม้บางชนิดอย่างมะเขือเทศหรือลูกท้อ และถั่วบางชนิด ควรระมัดระวังในการใช้และปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน หากมีอาการแพ้หรือผิดปกติควรหยุดรับประทานและไปพบแพทย์


 โกจิเบอร์รี่อาจทำให้ความดันเลือดลดต่ำลง ผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ โรคความดันโลหิตสูง หรือรับประทานยาที่ส่งผลต่อความดันเลือดควรหลีกเลี่ยงในการรับประทาน


 ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการรับประทานโกจิเบอร์รี่ โดยเฉพาะส่วนที่มาจากเปลือกรากของต้นโกจิเบอร์รี่ เพราะอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง และควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ


 โกจิเบอร์รี่อาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา สมุนไพร และอาหารเสริมบางชนิดเมื่อรับประทานร่วมกัน เช่น ยาที่ต้องดูดซึมผ่านเอ็นไซม์ Cytochrome P450 จากตับ ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาวาร์ฟารินหรืออีกชื่อคือ คูมาดิน ในกรณีที่มียารับประทานประจำหรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานโกจิเบอร์รี่ทุกครั้ง


 การรับประทานโกจิเบอร์รี่ในปริมาณมากยังเสี่ยงต่อภาวะความเป็นพิษจากการได้รับวิตามิน เอ เกินขนาด

ข้อมูลอ้างอิง
1. WebMD. Goji [Website]. 2018[cited 2018 August 28]. Available from: https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1025/goji



Copyright © 2011-2025 www.365wecare.com | Site Map